คำสอน

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

“…. เมื่อต้องภัยได้ทุกข์อะไร จรดอยู่ควงบุญนั้น ให้ดวงบุญนั้นช่วย อย่าไปนึกถึงสิ่งอื่นนะ นึกถึงบุญกุศลที่ตนกระทํานั่นแหละ - เป็นที่พึ่งของตัวจริง ช่วยตัวได้จริงๆ….”

“....ในมนุษย์โลก ถ้าเรามีบุญเสียแล้ว จะค้าขายก็ร่ำรวย จะทํากิจการอะไรก็เจริญ จะหาทรัพย์สมบัติก็หาได้คล่อง สะดวกสบาย ไม่ติดขัดแต่ประการใด ถ้าไม่มีบุญ จะทําอะไรก็ติดขัด ทุกอย่าง ทุกประการ ดังนั้นจึงได้ชักชวนพวกเราให้มาทําบุญ ทํากุศล จะได้เลิกจน เลิกทุกข์ยากลําบากเสียที....”

“.... ธาตุธรรมอันนั้นแหละ รักษาผู้ประพฤติธรรมละ ถ้าเห็นเข้าแล้ว ก็รักษาผู้นั้นไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว อย่าทิ้งท่านก็แล้วกัน อย่าผละจากท่าน ถ้าว่าห่างจากธรรมนั้นไม่รับรอง ถ้าติดอยู่กับธรรมนั้น รับรองทีเดียว ทั้งกาย วาจา ใจ บริสุทธิ์….”

“…. พอใจหยุดเท่านั้นแหละ ถูกตัวสมถะแล้ว หยุดนั้นแหละเป็นตัวสมถะ หยุดนั้นเองเป็นตัวสําเร็จ ทางโลกและทางธรรมสําเร็จหมด….”

“…. เรามาคนเดียว ไปคนเดียว หมดทั้งสากลโลก คนทั้งหลายไปคนเดียวทั้งนั้น ไม่มีคู่สองเลย จะเห็นได้ว่า ลูกสักคนหนึ่งก็ไม่มี สามีสักคนหนึ่งก็ไม่มี ภรรยาสักคนหนึ่งก็ไม่มี ต่างคนต่างมา ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างตาย ต่างคนต่างเกิด….”

“…. ยิ่งให้ ยิ่งได้ ยิ่งหวง ยิ่งอด หมดก็ไม่มา เราไม่หวงกัน เราก็ไม่อด หมดก็มาใหม่เรื่อยๆ….”

“…. นั่งภาวนา ทําใจให้หยุด แค่กะพริบตาเดียวเท่านั้นแหละ จะไปสร้างโบสถ์ วิหาร การเปรียญ สู้ไม่ได้หรอก พิจารณาความแปรผันของเบญขันธ์ ร่างกาย ไม่เที่ยง ยักเยือง แปรผัน เป็นของปฏิกูล เท่านี้ บุญ มากกว่า….”

“…. ถ้าไม่อดทนไปนิพพานไม่ได้ ต้องอดทนกันจริงๆ เห็นด้วยตาก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินด้วยหูก็สักแต่ว่าได้ยิน ได้กลิ่นด้วยจมูก ก็สักแต่ว่าได้กลิ่น ได้รสด้วยลิ้นก็สักแต่ว่าได้รส ได้สัมผัสด้วยกายก็สักแต่ว่าสัมผัส ได้รู้แจ้งทางใจก็สักแต่รู้ จะไปเอาเป็นชิ้นเป็นอันใช้ไม่ได้ ก็สักแต่ว่าไปเท่านั้นแหละ มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน….”

 

หลวงพ่อธัมมชโย

“…. กรณียกิจที่แท้จริง การปฏิบัติธรรม คือ กรณียกิจที่แท้จริงของการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเป้าหมายของชีวิต กิจที่ควรทำอย่างยิ่งของมนุษย์ทั้งหลาย คือ งานขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง เป็นงานที่ทำให้เราได้รู้จักตัวเรา และแผนผังชีวิตของเรา….”

“…. ความสำเร็จ 1ล้าน% ทันทีที่เรานั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ ดำรงสติให้มั่น ทำใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย แม้ว่าเราจะหลับบ้าง ตื่นบ้าง ฟุ้งบ้าง ไม่ฟุ้งบ้าง เท่ากับเรากำความสำเร็จ ในการเข้าถึงธรรมไว้ล้านเปอร์เซ็นต์….”

“…. ในสังสารวัฏ ในสังสารวัฏนี้ มีแต่บุญกับบาปเท่านั้นที่ปะทะกันอยู่ ทุกอย่างตัดสินกันที่บุญที่บาป พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สรุปว่า... ชีวิตในสังสารวัฏสิ่งที่ควรทำ คือ “ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส” นี่คือคำสรุปของผู้รู้ ที่เป็นแผนผังชีวิต หรือแผนที่ที่เราจะเดินทางในสังสารวัฏ ได้ดีที่สุด….”

“…. เข้าถึงธรรม ตัดรอนวิบากกรรม ลูกจะต้องตั้งใจนั่งสมาธิ เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัวให้ได้ ถ้าหากปฏิบัติธรรม จนเข้าถึงพระธรรมกายได้แล้ว บุญจากการเข้าถึงธรรมะนี่แหละ จะไปช่วยตัดรอนวิบากกรรม ให้เจือจางเบาบางลงไป จนกระทั่งถึงขั้นที่วิบากกรรมนั้น ไม่ได้ช่องส่งผลเลย เพราะมีบุญหนาแน่นตลอด….”

“…. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ประดุจหัวขบวนจักร ต้อง ๑ ก่อน ถึงจะไป ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เป็นหัวขบวนจักร นอกนั้นเป็นโบกี้ เพราะฉะนั้น ใครสวดบทนี้ได้ ได้บุญมากๆเลย จะเป็นผู้ที่ประดุจอยู่ในยุคนั้น นั่งต่อหน้าพระพักตร์ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า….”

“…. เมื่อถึงวันพระเราควรรู้จักชำระกาย วาจา ใจ ของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ด้วยการทำทาน รักษาศีลเจริญสมาธิ ภาวนา เช่นบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยายของเราได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา จนเป็นประเพณีอันดีงาม…” ท่านถือว่าวันพระเป็นวันแห่งความบริสุทธิ์ ที่จะได้มาตามระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ใช้วันเวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดให้คุ้มค่า ได้รับประโยชน์สูงสุดสมกับการมาเกิดเป็นมนุษย์ ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ควรรักษาศีล กลั่นใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าเราจะประกอบภารกิจหน้าที่การงานอันใดก็ตาม ให้ฝึกใจหยุดนิ่งควบคู่ไปด้วย ….”

“…. ถามหาความสุข ประโยชน์อย่างน้อยที่สุดของการฝึกใจหยุดนิ่ง คือ ทำให้เราได้เข้าถึงความสุขในปัจจุบันทันใด ซึ่งจะเป็นความสุขที่แท้จริง ไม่มีในที่ไหนนอกจากทำใจให้หยุดนิ่งเท่านั้น….”

“…. วันใดที่เรามองเห็นพระจันทร์กลางกาย ในตําแหน่งเดียวกัน คือศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ พบความสุขเหมือนกัน เหมือนเรามีความสุขร่วมกัน และ วันนั้นสิ่งอัศจรรย์จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ วันใดที่เราสว่าง วันนั้นโลกก็จะสว่างไปด้วย….”

“…. การปฏิบัติธรรม เป็นสิ่งสําคัญที่สุดในชีวิต สําคัญยิ่งกว่าอากาศที่เราหายใจ เพราะถ้าขาดอากาศ เราก็แค่ตายจากโลกใบนี้ แต่ถ้าขาดธรรมะ เราจะตายจากความดี ตายจากทุกสิ่งทุกอย่าง….”

“.... หลักวิชชาในการนั่งสมาธิ นั่งสมาธิต้องมีความสุข...ตั้งแต่สุขเล็กๆ ทําให้เราปรารถนาที่จะนั่งต่อไป เป็นกําลังใจ เป็นรางวัลสําหรับการนั่งหลับตาทําสมาธิ แล้วก็หมั่นสังเกตเราจะพบเหตุแห่งความบกพร่อง และช่องทางแห่งความสําเร็จ โดยย่อคือ “ถูกหลักวิชชาไหม ทําความเพียรสม่ำเสมอทุกวันหรือเปล่า....”

“…. ยุดพักสร้างบุญ บาปจะแทรก เราจะต้องไม่ประมาท ในการสร้างบารมี อย่าคิดว่าทำบุญมาเยอะแล้ว ขอพักก่อน แค่ความคิดคำนึงว่า “ขอพักก่อน” แสดงว่าจิตของเราถูกพญามารเข้าแทรกแล้ว จึงทำให้เกิดความคิดวิปริตอย่างนี้ แต่เราไม่รู้ตัว ไม่รู้จัก และไม่เข้าใจว่า ความคิดอย่างนี้จะเป็นพิษเป็นภัยต่อตัวเรา เพราะเมื่อเราหยุดพัก บุญก็พักด้วย แล้วบุญบาปชิงช่วงช่วงชิงกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อบุญพัก บาปได้ช่องเสียบเข้ามาทันที แล้วเดี๋ยวก็จะไปกันใหญ่ จะฉุดดึงเราไปทำอกุศลอะไรต่ออีกมากมาย เพราะฉะนั้น วันหนึ่งคืนหนึ่งที่ผ่านไปอย่าประมาท เราต้องสร้างบุญกันให้เต็มที่ทุก ๆ วัน เพราะเราเกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ และสร้างบารมี….”

 

หลวงพ่อทัตตชีโว

“.... ฝึกให้เป็นคนจริง ต้องรู้จักใส่ใจ คนเราจะทำอะไรให้จริงจัง จริงใจ จริงแสนจริงล่ะก็ ปู่ย่า ตาทวด ให้บทสรุปสั้น ๆ ไว้ว่า จะทำอะไรน่ะ ต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเขานะ ถ้าไม่งั้นเป็นคนจริงไม่ได้ อะไรที่ไม่อยากให้คนอื่นทำกับเรา เราก็อย่าไปทำกับคนอื่นเขา ถ้าคิด และทำได้อย่างนี้ จะทำให้เรามีนิสัยทั้งจริงจังจริงใจ แล้วก็จริงแสนจริง ....”

“.... จงให้อภัยเพื่อปล่อยนักโทษในใจ เวลาใครทำอะไรให้เราไม่พอใจในบางเรื่อง หรือกระทบกระทั่งกับใครแล้ว ผ่านมา ๓ ปี ๕ ปี แล้วเราก็ยังจำ ยังไม่ให้อภัยเขา พอเจอหน้าทีไรแล้วอารมณ์กรุ่นขึ้นมาทุกที นั่นแหละคือ "เราทำให้คนๆ นั้นเป็นนักโทษขังเอาไว้ในใจเรา" เพราะฉะนั้นในใจเราจึงมีแต่นักโทษรกๆ อยู่ในนั้นเยอะเลย แล้วก็ทำให้จัดระเบียบความคิดได้ยาก เมื่อจัดระเบียบความคิดได้ยาก มันก็มาปรากฏตอนนั่งสมาธิ เดี๋ยวคนโน้นก็ผุด เดี๋ยวคนนี่ก็ผุดขึ้นมา นั่นแหละนักโทษที่เราขังลืมผุดขึ้นมาครับ จำไว้อาการนี้....”

“.... กายมนุษย์มีไว้ใช้ทำความดี การได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก หลักฐานคือ แต่ละบ้านนั้นมีสัตว์อยู่มากกว่าคนนับเท่าไม่ถ้วน อย่าใช้กายมนุษย์นี้ไปถล่มทลายทำความชั่วเสีย อดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไรเรียกไม่กลับแล้ว ก็ให้แล้วไป แต่ว่าอนาคตนั้นอย่าย้อนกลับไปทำอีกเลย แต่ว่าถ้าในอดีตทำดีมาตลอดเลย นึกเมื่อไร ชื่นใจเมื่อนั้น ก็ขอให้ปลื้มใจ แล้วก็เดินหน้าทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ถ้าอย่างนี้ดีเยี่ยมเลย เมื่อรู้จักคุณค่าของกายอย่างนี้แล้ว ทุ่มเทใช้กายนี้ทำความดี ให้สมกับที่ได้โอกาสครอบครองกายมนุษย์อันล้ำค่า ไม่ต้องไปล่าสมบัติโคตรเพชร โคตรทองที่ไหนแล้ว ตัวของเราที่พ่อแม่ให้มา ดีกว่าโคตรเพชรหลายเท่านัก รักษาตัวของเรานี้ไว้ได้ แล้วเอาไปทำความดีเสียให้คุ้ม แล้วไม่ว่าจะประสบอุปสรรคหรือเคราะห์กรรมอะไรอย่างไร อดทนกัดฟันสู้กันไป อย่าไปคิดทำลายตัวเอง อย่าไปคิดซ้ำเติมตัวเองนะลูก ....”

“.... ความจริงใจ ทำให้สมปรารถนา ขอฝากพวกเรานะว่า จะทำอะไรก็ควรจะทำให้จริงใจ เพื่อที่จะได้เป็นสัจจะติดตัวไป ด้วยสัจจะนี้แหละ เมื่อถึงคราวจะนำมาเป็นคำอธิษฐาน ก็จะทำให้คำอธิษฐานนั้นได้ผลสมความปรารถนา ....”

“.... สิ่งที่ต้องรีบรู้ เรื่องใหญ่ของมนุษย์นี้ที่ต้องรีบศึกษา คือ จะต้องรีบรู้ว่า อะไรดีอะไรชั่วให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพราะถ้าทำอะไรที่ดีๆ มันก็เกิดเป็นบุญ ถ้าอะไรที่มันไม่ดีทำไปแล้วก็เกิดเป็นบาป และบุญบาปที่เราทำอย่างต่อเนื่องนี้ มันก็จะเกิดเป็นนิสัยที่ดีและไม่ดีขึ้นมาในตัวมนุษย์เรา เวลาเราทำกรรมอะไรก็ตาม เวลาเราทำกรรมดี ผลก็เป็นความสุขน่าชื่นใจ แล้วเกิดบุญอยู่ในตัว เกิดความเจริญรุ่งเรือง ยังไม่พอเมื่อทำบ่อยๆ ซ้ำๆ เข้า ก็เกิดนิสัยดีๆ อีกด้วย ตรงกันข้าม ถ้าทำกรรมชั่ว แทนที่จะเป็นความสุขก็กลายเป็นความทุกข์ขึ้น แทนที่จะเกิดบุญ มันก็เกิดบาปขึ้นมา แทนที่จะรุ่งเรื่องมันก็กลายเป็นความเสื่อมขึ้นมา แล้วมันก็เกิดนิสัยชั่วๆ ขึ้นมาด้วย มันคู่ขนานกันไปอย่างนี้....”

“.... ลูกเอ๊ย...เรายังพักไม่ได้ ชาวโลกทั้งหลายกําลังแหงนคอ ขอเขาอยู่ หากขาดกัลยาณมิตรเช่นเรา ใครเล่าจะชี้ทางให้อีกนานสักเท่าไหร่ เขาจึงจะได้ที่พึ่ง รอให้หมดทั้งโลก เข้าถึงธรรมกายก่อนนะ แล้วเราจะพักพร้อม ๆ กัน ....”

 

มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

“.... ธรรมะเป็นที่พึ่ง ยายมองไปตลอดหมด ก็เห็นชัดว่า ในโลก ในธาตุ ในธรรมทั้งหมดนี้ ไม่มีใครเลยที่จะช่วยยายได้ ยกเว้นยายจะช่วยตัวเองเท่านั้น ยายจึงพยายามช่วยตัวเองมาตลอด ทุกข์ของเราใครเขาจะช่วยได้คิดหาทางช่วยตัวเองอยู่เสมอ หวังเอาตัวเองเป็นที่พึ่ง หวังพึ่งธรรมะในตัวเอง ที่เอาตัวรอดมาได้ทุกอย่าง เพราะยายมีธรรมะเป็นที่พึ่ง ....”

“.... เหมือนหุ่นเชิด ยายนึกถึงความตาย จึงได้ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ยายคิดว่า เวลามันไม่รอ เดี๋ยววัน เดี๋ยวคืน เดี๋ยวพรุ่ง ไม่รู้จะตายเมื่อไร ยายรีบ ๆ ทำไว้เป็นบุญติดตัวไปคนเราตายไปแล้ว เอาอะไรไปไม่ได้ เอาไปได้ก็แต่บุญกับบาป คนเราเหมือนหุ่น บุญบาปพาไป ทำบุญ บุญก็เชิด ทำบาป บาปก็เชิด ....”

“.... ยายทำเพื่อตัวเอง และเพื่อคนหมู่มากด้วย เราเกิดมา ควรทำประโยชน์สักอย่างหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ตัวเอง ถ้าทำให้ตัวเองได้แล้ว ยังทำให้คนหมู่มากได้ ชีวิตนี้เกิดมาก็คุ้มแล้ว ....”

“.... พวกเราอย่าได้ทะเยอทะยาน อย่าโลภมาก ให้มีความสันโดษ มักน้อย ความโลภ ทำให้เป็นคนไม่ซื่อ คดโกง และคนไม่ซื่อนั้น ยายไม่ชอบที่สุด ถ้าโลภในสิ่งที่ไม่ดี ก็ไม่มีความสุข ให้พยายามรักษาใจให้สะอาด บริสุทธิ์มาก ๆ ถ้าเป็นบุญของเราแล้ว ต้องได้มาเอง ไม่ต้องคิดทะเยอทะยาน แต่ถ้าปรารถนาจะสร้างแต่ความดีมาก ๆ ไม่เป็นไร ....”

“.... ให้สันโดษ มักน้อย ให้รู้จักใช้ของ คนที่ยังไม่มีความรู้ยังไม่มีความดี แต่อยากดัง อยากมีชื่อเสียง อยากเป็นใหญ่ อย่างนี้ไปได้ไม่นานก็ตกกระป๋อง เพราะไม่มีฐานของความดีรองรับไว้ ยิ่งประกาศอย่างนี้ ยิ่งทำลายตัวเองเร็วขึ้น ....”

“.... ยายไม่เกลียดใครเลย เพราะยายกลัวว่า ชาติต่อไปคนเขาจะมาเกลียดยาย ยายมองไกล ๆ ไม่ได้มองแค่สั้นๆ เฉพาะหน้า เพราะฉะนั้น ยายไม่เกลียดใคร ยายรักเขาทุกคน ....”

“.... รักความสะอาด ยายเริ่มต้นจากไม่มีอะไร แต่ยายรักความสะอาด รักสะอาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยายรบจนกระทั้งที่นี้ (ศูนย์พุทธจักรฯ)สะอาด ทําให้คนศรัทธาเลื่อมใส ทําให้ที่นี่เป็นหลักชัย เป็นที่ปฏิบัติธรรมได้ ฉะนั้นอย่าทั้งเรื่องความสะอาด ที่ยายพยายามรบมานะ ....”

“.... ธรรมะเท่านั้นที่ช่ววยเราได้ ทั่วแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่มีใครช่วยเราให้พ้นทุกข์ได้หรอก นอกจากธรรมะเท่านั้น เกาะธรรมะให้แน่น ๆ นะ แค่เห็นแสงสว่างเพียงแวบเดียว บุญก็มากมายมหาศาล เป็นฟ้าครอบเชียวนะ ....”

“.... ทําความดี เพื่อให้พ้นทุกข์ ยายทําความดี ไม่เคยหวังให้ใครมาชื่นชม ชมชอบ หรือว่าให้เขามายกย่อง ยายทําเพื่อช่วยตัวเองให้พ้นทุกข์ ยายไม่เคยคิด อยากเด่นอยากดังเลย ถ้ามีบุญแล้วมันจะดังเอง ดังอย่างเย็น ไม่ใช่ดังอย่างร้อนๆ บางคนอยากเด่นอยากดัง ก็ไปข่มคนอื่น อันนี้คือพวกของกิเลสเขาเลย ถ้าอยากเด่นอยากดังแล้ว ก็จะไปข่มคนอื่นเขา ถ้าเรามีความดีอยู่ในตัวมากๆ สร้างความดีมากๆ สร้างบุญมากๆ แล้วมันจะดังเอง ....”

“.... ทําความดี ต้องอดทนและเงียบ คนเราสร้างความดี อย่าคิดว่าง่ายนะ ต้องต่อสู้ต้องอดทน ต้องเงียบ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ยายต่อสู้ด้วยความเงียบ และอดทน ยายใช้บุญช่วย และยายก็ชนะด้วยบุญ ขายชนะด้วยความดีอย่างเดียวเลย ทําจนกระทั่งเขายอมแพ้ความดีของยาย ....”

“.... แก้ปัญหา การที่จะเข้าใจคนอื่นได้นั้น ต้องดูตัวเองมาก ๆ ดูเข้าไปในใจของตัวเอง เพราะโลกทั้งหมด อยู่ในตัวของเรา เมื่อดูตัวของเราเข้าใจแล้ว เห็นชัดแล้ว คน สัตว์ทั้งหมดในโลก เราสามารถเข้าใจได้โดยง่าย การแก้ปัญหาต่าง ๆ หรือเรื่องยุ่งต่าง ๆ นั้น ต้องแก้จากภายในตัวของเราก่อน ถ้ามัวไปแก้ปัญหานอกตัว ก็ไม่มีวันจบสิ้น เพราะเรื่องต่าง ๆ ปัญหาต่าง ๆ เกิดมาจากในตัวทั้งนั้น พอแก้ในตัวให้สงบแล้ว ทําเฉย ๆ แล้ว จึงแก้ปัญหา ด้วยความเยือกเย็น จะทําให้ทุกอย่างเรียบร้อย ....”

“.... คนเราจะตายเมื่อไรก็ไม่มีใครรู้เวลา เพราะฉะนั้นต้องรีบเข้าวัด ก่อนที่เขาจะหามเข้า เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืน ชีวิตก็หมดไปวัน ๆ ต้องตักตวงเอาบุญติดตัวเราไปให้เยอะ ๆ บุญไม่มีกิเลส คนมีกิเลส เวลาเดือดร้อน ต้องนึกถึงบุญ หาบุญได้ ใช้ให้เป็น หาเงินได้ ใช้เงินเป็น ....”